วิธีเปลี่ยน Password Windows Server 2003-2012 R2 ผ่าน Remote Desktop Connection

✔ วิธีการเปลี่ยน Password Windows Server 2003-2012 R2 ผ่าน Remote Desktop Connection

วิธีนี้สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านของ

  • Windows Server 2003
  • Windows Server 2008
  • Windows Server 2008 R2
  • Windows Server 2012
  • Windows Server 2012 R2

Quote

* เพราะว่า Windows Server 2003 เป็น OS ที่ค่อนข้างเก่าแล้วจึงไม่มีรูปให้ครับ แต่สามารถใช้วิธีคล้ายๆ กันได้

OS ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านได้ทาง Remote Desktop ครับ

มาเริ่มกันเลย!

1. ไปที่ Start

Screenshot_20.png

2.พิมพ์ในช่องค้นหาว่า “Remote” โดยไม่มีฟันหนูคู่ และเลือก “Remote Desktop Connection” ครับ

Screenshot_21.png

3.เมื่อ Remote Desktop Connection เปิดขึ้นมาแล้ว ระบุ ไอพีของเซิร์ฟเวอร์ครับ แล้วกด Connect

Screenshot_22.png

4.เมื่อกด Connect แล้วจะมีการถามให้ระบุ Username และ Password เพื่อเข้าระบบครับ ให้ระบุเลยครับ
* โดยทั่วไป Username ของเครื่องจะเป็น Administrator
A = ระบุรหัสผ่านปัจจุบันของเครื่อง
B = สามารถบันทึกรหัสผ่านไว้สำหรับครั้งหน้าได้

Screenshot_23.png

5.เมื่อทำการระบุชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านแล้วจะมีหน้าถามว่าเชื่อถือเครื่องนี้หรือไม่ ในที่นี้กด Yes ได้เลยครับ

Screenshot_24.png

6.เมือสามารถเชื่อมต่อได้แล้ว ให้กดปุ่มที่ Keyboard ดังนี้ Ctrl + Alt + End

Screenshot_25.png

7.เมื่อหน้าขอ Windows Security มาแล้วให้เลือก Change a Password

Screenshot_26.png

8.มีข้อมูลต้องระบุคือ Old Password , New Password และ Confirm Password หรือนั้นคือ รหัสผ่านปัจจุบัน , รหัสผ่านใหม่ที่ต้องการ และ รหัสผ่านใหม่แต่ยืนยันอีกครั้งครับ

Quote

Policy ของการตั้งรหัสผ่าน Windows Server ครับ อย่างน้อยต้องมี 3 ข้อ จากรายการนี้ครับ

  • รหัสผ่านมีความยาวอย่างน้อย 8 ตัว
  • รหัสผ่านมีตัวอักษรของภาษาที่ใช้ในยุโรปที่เป็นตัวใหญ่ (A-Z)
  • รหัสผ่านมีตัวอักษรของภาษาที่ใช้ในยุโรปที่เป็นตัวเล็ก (a-z)
  • รหัสผ่านมีตัวเลข 0 – 9
  • รหัสผ่านมีตัวที่ไม่ใช่อักษร (เช่น  !, $, #, %)
  • รหัสผ่านมีตัวที่อยู่ใน Unicode อย่างเช่นตัวอักษรใน Asia (เช่น ภาษาไทย)

อ้างอิง http://technet.micro…2(v=ws.10).aspx

Screenshot_28.png
Screenshot_29.png

9.ดำเนินการเรียบร้อยแล้วครับ

Screenshot_30.png

ในที่นี้ถึงจะเป็นภาพจาก Windows Server 2012 R2 แต่ใน Windows ที่ต่ำกว่าก็สามารถดำเนินการตามวิธีที่คล้ายกันได้ครับ

Was this article helpful?

Related Articles